ติดต่อสอบถาม
ประกาศด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
Privacy Notice
ประกาศด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สำหรับการบริหารงานบุคคล รวมถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง

บริษัท สยามนิสทรานส์ จำกัด (“บริษัทฯ”) ได้จัดทำและเผยแพร่ประกาศด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับพนักงานของบริษัทฯ พนักงานจ้างเหมาบริการ ผู้สมัครงาน รวมถึงสมาชิกในครอบครัว บุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง และผู้รับผลประโยชน์ของบุคคลข้างต้นที่ได้ให้ข้อมูลไว้กับบริษัทฯ รวมถึงวิธีการในการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและแนวทางการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

บริษัทฯ มีการพิจารณาทบทวนและอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ตามความเหมาะสมอยู่เป็นระยะ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของส่วนบุคคลได้รับความคุ้มครองอย่างเหมาะสม หากประกาศด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทฯ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบด้วยการเผยแพร่ผ่านช่องทางที่เหมาะสม

1. คำนิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

“ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

“เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ผู้ซึ่งบริษัทฯ แต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย

2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
2.1 ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นภายใต้ขอบเขตของประกาศด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ในกรณีต่อไปนี้
2.1.1 สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • เมื่อบริษัทฯ ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ต้องขอความยินยอม
  • เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญา
  • เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ
2.1.2 สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว
ในการดำเนินงานของบริษัทฯ บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ บริษัทฯ มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเสมอ เว้นแต่เป็นกรณีที่เข้าเงื่อนไขที่ไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งตามที่ระบุไว้ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกรณีดังต่อไปนี้
  • เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม
  • เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  • เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดที่อาจติดต่อหรือแพร่เข้ามาในราชอาณาจักร
  • เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการประเมินความสามารถในการทำงานของลูกจ้าง การคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม หรือการคุ้มครองทางสังคม
  • เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
2.2 วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมเพื่อการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้หรือเปิดเผย
บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการโดยขึ้นอยู่กับลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทฯ ดังต่อไปนี้
2.2.1 สำหรับผู้สมัครงาน รวมถึงสมาชิกในครอบครัว บุคคลอ้างอิง และบุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉินของผู้สมัครงาน
  • เพื่อการสรรหา การพิจารณาและคัดเลือกผู้สมัครงาน รวมถึงการดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครงาน การตรวจสอบประวัติอาชญากรรม การสัมภาษณ์ การประเมินผลการสัมภาษณ์ และการทำสัญญาจ้างงาน เป็นต้น
  • เพื่อการบริหารงานภายในของบริษัทฯ เกี่ยวกับกระบวนการสมัครงาน เช่น การจัดทำฐานข้อมูลของผู้สมัครงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง การส่งข้อมูลรายงานการสัมภาษณ์ของผู้สมัครงานให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณาคัดเลือก และการบริหารงานบุคคลอื่น ๆ ที่จำเป็นของบริษัทฯ
2.2.2 สำหรับพนักงานของบริษัทฯ พนักงานจ้างเหมาบริการ รวมถึงสมาชิกในครอบครัว บุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง และ ผู้รับผลประโยชน์ของบุคคลข้างต้น
  • เพื่อประกอบการจ้างงานและการปฏิบัติหน้าที่ภายใต้ขอบเขตสัญญาจ้างงานหรือสัญญาอื่นที่เกี่ยวข้องระหว่างบริษัทฯ และพนักงานหรือพนักงานจ้างเหมาบริการ หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ และระเบียบอื่นที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ รวมถึงการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น การตรวจคัดกรองสารเสพติดและประวัติอาชญากรรมก่อนการปฏิบัติงาน การจัดทำหนังสือมอบอำนาจเพื่อปฏิบัติงานในนามของบริษัทฯ การนำส่งข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องให้แก่หน่วยงานรัฐ การจัดทำเอกสารหลักฐานการรับเงินจากพนักงานของบริษัทฯ เช่น ใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น
  • เพื่อการบริหารงานบุคคลของบริษัทฯ รวมถึง การวางแผนและบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล การกำกับดูแลการดำเนินงานของพนักงานและพนักงานจ้างเหมาบริการ การจัดทำฐานข้อมูลของพนักงานและพนักงานจ้างเหมาบริการภายในบริษัทฯ รวมถึงการบริหารจัดการเงินเดือน ค่าจ้างและประโยชน์ตอบแทนอื่น การให้สิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่าง ๆ (เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าตรวจสุขภาพประจำปี ประกันภัย ค่าวัคซีนป้องกันโรค กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และประกันสังคม เป็นต้น) การจัดทำสรุปรายการเงินได้และภาษีเงินได้ของพนักงานเพื่อนำส่งกรมสรรพากร
  • เพื่อการยื่นคำขอการตรวจลงตราหรือขอวีซ่า (Visa) หรือคำขอต่ออายุการตรวจลงตราหรือคำขอต่ออายุวีซ่า (Visa Extension) และ/หรือการยื่นขอหรือการยื่นขอต่ออายุใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ตามที่กฎหมายกำหนด
  • เพื่อการดำเนินการวางแผน รายงาน ประเมิน และวิเคราะห์ข้อมูล สำหรับการดำเนินงานของบริษัทฯ
  • เพื่อการบริหารความเสี่ยง การป้องกันและตรวจสอบ และการบริหารจัดการภายในองค์กร ตามที่กำหนดในกฎหมาย ข้อบังคับ หรือระเบียบของบริษัทฯ เช่น การตรวจสอบภายในของบริษัทฯ รวมถึงการพิจารณาเรื่องร้องเรียนการทุจริตหรือประพฤติมิชอบภายในบริษัทฯ การตรวจสอบและป้องกันการทุจริตหรือการกระทำอื่นใดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย การตรวจสอบการขอใช้ระบบสารสนเทศภายในของบริษัทฯ เป็นต้น
  • เพื่อการสืบสวน สอบสวน ตามกระบวนการทางกฎหมายและกฎระเบียบอื่นใด เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย และเพื่อรายงานข้อมูลต่อหน่วยงานราชการตามกฎหมาย หรือเมื่อได้รับหมายเรียก หมายบังคับคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานราชการ ศาล หรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่น ๆ รวมทั้งเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  • เพื่อการโอนสิทธิ หน้าที่ และผลประโยชน์ใด ๆ ตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัทฯ เช่น การควบรวมกิจการหรือการโอนสัญญาซึ่งได้กระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย
  • เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารและสถานที่ของบริษัทฯ ด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด การคัดกรอง การตรวจสอบ และการยืนยันตัวตนเพื่อการเข้า – ออกบริเวณอาคารและสถานที่ของบริษัทฯ
ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อบริษัทฯ ในการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับหรือการปฏิบัติตามสัญญา หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าว บริษัทฯ อาจมีความรับผิดตามกฎหมายและ/หรือไม่สามารถบริหารหรือจัดการสัญญาหรืออำนวยความสะดวกแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม
3.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
The Company collects several types of Personal Data from the Data Subjects, including:
  • ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขประจำตัวประชาชน หมายเลขใบอนุญาตขับรถ หมายเลขหนังสือเดินทาง วัน เดือน ปีเกิด เพศ อายุ สัญชาติ สถานภาพการสมรส รูปถ่าย รวมถึงข้อมูลอื่นที่ปรากฎบนสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาใบอนุญาตขับรถ หรือเอกสารอื่นที่กฎหมายกำหนดให้จัดทำ เป็นต้น
  • ข้อมูลติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลติดต่อบนสื่อสังคมออนไลน์
  • ข้อมูลทางการเงินหรือข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคารและหมายเลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับภาษีอากรต่าง ๆ ข้อมูลประกันภัย ค่าตอบแทนหรือเงินเดือน เป็นต้น
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานระบบสารสนเทศของบริษัทฯ หรือข้อมูลด้านเทคนิคอื่น ๆ เช่น หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) รหัสประจำตัวอุปกรณ์ ข้อมูลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่มีลักษณะเดียวกัน ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) ข้อมูลการเข้าใช้งานเว็บไซต์และระบบต่าง ๆ ของบริษัทฯ ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานสำหรับใช้งานระบบสารสนเทศของบริษัทฯ เป็นต้น
  • ข้อมูลเกี่ยวกับเกี่ยวกับคุณสมบัติ การศึกษาและการทำงาน รวมถึงการฝึกอบรมต่าง ๆ เช่น ประวัติการศึกษาและการทำงาน ข้อมูลใบอนุญาตทำงาน ตำแหน่งงาน เป็นต้น
  • ข้อมูลการติดต่อกับบริษัทฯ เช่น ข้อมูลการบันทึกภาพหรือเสียงเมื่อมีการติดต่อกับบริษัทฯ เป็นต้น
  • ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทฯ เช่น การบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ข้อมูลอื่นที่ปรากฎในเอกสารการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม ผลสำรวจความคิดเห็นหรือการประเมินความพึงพอใจ เป็นต้น
  • ข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เช่น สถานภาพการเกณฑ์ทหาร สถานะพลเมือง ข้อมูลบุคคลในครอบครัว ข้อมูลบุคคลอ้างอิง ข้อมูลบุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น
ในบางกรณี บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เช่น ศาสนา หมู่โลหิต เชื้อชาติ ข้อมูลสุขภาพ (ผลตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) และผลตรวจสารเสพติด) ข้อมูลจำลองใบหน้า ข้อมูลประวัติอาชญากรรม เป็นต้น โดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือตามที่กฎหมายกำหนด
3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ
ในบางกรณี บริษัทฯ อาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเป็นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ จะปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งรวมถึงการขอความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามที่กฎหมายกำหนดหากบริษัทฯ ไม่มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายประการอื่นนอกเหนือจากการขอความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
3.3 แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งต่าง ๆ ได้แก่
  • ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง เช่น การสมัครงานกับบริษัทฯ รวมถึงการนำส่งเอกสารประกอบการสมัคร การดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา การลงนามในสัญญา การแนบเอกสารประกอบการทำสัญญา การติดต่อบริษัทฯ ผ่านทางช่องทางต่าง ๆ (เช่น ทางโทรศัพท์ ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์) การเข้าร่วมประชุม นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจมีการจัดเก็บข้อมูลโดยอัตโนมัติ (เช่น เมื่อเจ้าของข้อมูลเข้าใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทฯ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลเข้าใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ
  • ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น เช่น บุคคลอ้างอิงซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ข้อมูลไว้แก่บริษัทฯ นายจ้างจากที่ทำงานเก่า มหาวิทยาลัย หน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานเอกชน หรือแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ (เช่น เว็บไซต์ของหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลที่ค้นหาได้ทางอินเทอร์เน็ต เป็นต้น)
4. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในประกาศด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่บริษัทฯ ยังคงดำเนินความสัมพันธ์กับท่าน และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในของบริษัทฯ
5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
5.1 ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมอาจจะถูกเปิดเผย
ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกดังต่อไปนี้
  • บริษัทย่อย บริษัทในกลุ่ม และบริษัทในเครือ (ตามรายชื่อที่ระบุใน https://www.th.nissin-asia.com/th/overseas-branches.php) เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจกรรมตามที่ระบุในประกาศด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
  • ตัวแทน ผู้ให้บริการ ผู้รับจ้าง และ/หรือ ผู้รับจ้างช่วง สำหรับการดำเนินงานใด ๆ ให้แก่บริษัทฯ เช่น ผู้ให้บริการขนส่ง ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยว ผู้ให้บริการเก็บและทำลายเอกสาร โรงพิมพ์ ผู้รับจ้างพัฒนาและดูแลระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมายและภาษี ที่ปรึกษาใด ๆ
  • หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล องค์กรอิสระ หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจหรือปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น ศาล ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสรรพากร กรมศุลกากร กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
  • สถาบันการเงินเพื่อการจ่ายค่าจ้าง ค่าชดเชย เงินช่วยเหลือ ในกระบวนการที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
  • บริษัทประกันภัย
  • ผู้รับโอนสิทธิ หน้าที่ และผลประโยชน์ใด ๆ จากบริษัทฯ รวมถึงผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้รับโอนดังกล่าวให้ดำเนินการแทน เช่น กรณีการควบรวมหรือซื้อกิจการ เป็นต้น
5.2 การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
ในบางกรณี บริษัทฯ อาจมีการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ ทั้งนี้ ในการส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าว บริษัทฯ จะทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ และ บริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการการคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม และจะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศหากจำเป็นต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด
6. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ในฐานะที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงสิทธิ ต่าง ๆ ดังนี้
6.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

ท่านมีสิทธิขอเพิกถอนความยินยอมที่ให้ไว้แก่บริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน

ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ก่อนหน้าแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย

6.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม
6.3 สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบริษัทฯ ได้ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นได้ตามที่กฎหมายกำหนด
6.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามที่กฎหมายกำหนด
6.5 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด
6.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลของท่านด้วยเหตุตามที่กฎหมายกำหนด
6.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
6.8 สิทธิในการร้องเรียน

ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้

ในกรณีที่ท่านยื่นคำร้องขอใช้สิทธิภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบริษัทฯ ได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้ว จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด อนึ่ง บริษัทฯ สงวนสิทธิที่จะปฏิเสธหรือไม่ดำเนินการตามคำร้องขอดังกล่าวได้ในกรณีที่กฎหมายกำหนด

7. มาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ ได้กำหนดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมและเข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ

กรณีที่บริษัทฯ มอบหมายให้บุคคลอื่นดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัทฯ บริษัทฯ จะกำกับดูแลบุคคลดังกล่าวอย่างเหมาะสมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าบุคคลดังกล่าวจะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

8. ข้อมูลสำหรับการติดต่อ
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การใช้สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ที่
บริษัท สยามนิสทรานส์ จำกัด
สถานที่ติดต่อ : 191/66, 68-69 ชั้น 15 อาคารซีทีไอ ทาวเวอร์ ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
หมายเลขโทรศัพท์ : (+66)-2-261-1080~5 หรือ (+66)-2-261-5343~6
อีเมล์ : snc-compliance@th.nissin-asia.com
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ : 191/66, 68-69 ชั้น 15 อาคารซีทีไอ ทาวเวอร์ ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
หมายเลขโทรศัพท์ : (+66)-2-261-1080 #296
อีเมล์ : snc-compliance@th.nissin-asia.com
ประกาศ ณ วันที่ 01/06/2565
กลับสู่ด้านบน
ชั้น 15 เลขที่ 191/66, 68-69 CTI TOWER ถนนรัชดาภิเษก
เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 ประเทศไทย
โทรศัพท์ : (+66)-2-261-1080~5 or 261-5343~6